วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

หลักการใช้ Future Continuous Tense


หลักการใช้  Future Continuous Tense (Tense อนาคตกำลังทำ)
Future  ฟิวเชอะ= อนาคต
Continuous  คอนทินิวอัส= ต่อเนื่อง
ที่บอกว่า อนาคตกำลังทำ หมายถึง ในช่วงเวลาหนึ่งของอนาคต จะมีเหตุการณ์หนึ่งกำลังเกิดขึ้นอยู่ (เช่น ฉันคงกำลังทำอะไรอยู่นะ ในช่วงเวลานั้น เป็นต้น)
โครงสร้าง
S + will + be + ving
I, You, He, She, It, We, They
will
be
reading
การย่อรูป
การย่อรูป ใช้หลักเดียวกันกับ Future Simple Tense ครับ
หลักการใช้
ใช้กล่าวถึงเหตุการที่กำลังเกิดขึ้นในอนาคต หมายความว่า ณ ช่วงเวลาหนึ่งในอนาคต ฉันกำลังทำอะไรบางอย่างอยู่นะ ซึ่งนานๆ นานมากกว่าจะได้พูดทีหนึ่ง ในที่นีขอยกตัวอย่างมาให้ดู  2 แบบนะครับ คือ มีเหตุการณ์เดียว และมีสองเหตุการณ์เกิดขึ้นไล่เลี่ยกัน
·         แบบมีเหตุการณ์เดียว  ส่วนมากจะระบุเวลาในอนาคตด้วย เช่น
·         will be reading books at 8 o’clock tomorrow.
ฉันจะกำลังอ่านหนังสือเวลา 8 นาฬิกา วันพรุ่งนี้
หมายความว่า พรุ่งนี้เวลา 8 นาฬิกา ฉันกำลังอ่านหนัสืออยู่นะ ไม่เชื่อรอดูก็จะเห็น
·         At nine o’clock tomorrow, we will be working on farm.
พรุ่งนี้เวลา 9 นาฬิกา พวกเราจะกำลังทำงานในฟาร์ม
หมายความว่า พรุ่งนี้ตอนเช้า ถ้าคุณมาฟาร์มของเรา คุณก็จะเห็นพวกเรากำลังทำงานอยู่
·         At six oclock, we will be eating dinner with our granddad.
เวลา 6 นาฬิกา พวกเราจะกำลังกินข้าวกับปู่ของพวกเรา
หมายความว่า ปู่จะมาเยี่ยมเพื่อกินอาหารเย็นร่วมกัน  เวลา 6 โมงวันนี้ พวกเรากำลังนั่งกินข้าวร่วมกัน
·         When we get to the room, we will be sleeping on the soft bed.
เมื่อเราไปถึงห้อง พวกเราก็จะกำลังนอนบนเตียงนุ่มๆ (ได้นอนบนเตียงนุ่ม)
หมายความว่า เมื่อเราถึงห้องเราก็จะได้นอน และการนอนก็นอนเป็นเวลานาน การทำอะไรที่นานๆฝรั่งเขาจะพูดว่ากำลังทำอยู่
·         แบบมีสองเหตุการณ์ ดู Time Line  (เหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นใช้ Future Continuous อีกเหตุการณ์หนึ่งใช้ Present Simple)
·         She will be waiting when you arrive.
หล่อนจะกำลังรอคอย เมื่อคุณมาถึง
หมายความว่า เมื่อคุณมาถึง คุณก็จะเห็นหล่อนกำลังรอคอยอยู่
·         will be sleeping when my mom gets home.
ฉันจะกำลังนอนหลับอยู่ ตอนที่แม่มาถึง
หมายความว่า คืนนี้เมื่อแม่มาถึง ฉันก็กำลังนอนหลับอยู่บนเตียง
ความแตกต่างระหว่าง Future Simple กับ Future Continuous
ลองมาดูประโยคนี้ก่อน
·         will watch TV tomorow morning. ฉันจะดูทีวีพรุ่งนี้เช้า
·         will be watching TV tomorrow morning. ฉันจะกำลังดูทีวีพรุ่งนี้เช้า
อะไรคือความแตกต่าง คิดออกกันไหมเอ่ย ความแตกต่างคือ การกระทำที่จะเกิดขึ้น
ประโยคแรกเป็นแค่ความคิดว่าจะทำ แต่ประโยคหลังชัวร์ๆเลย จะดูแน่ๆ พรุ่งนี้ ถ้าคุณตื่นขึ้นมาตอนเช้าก็จะเห็นฉันกำลังนั่งหน้าจอทีวีนั่นแหละ
ถ้าเจอประโยคแบบนี้ไม่ต้องงงนะครับ ให้เรานึกถึง present continuous ซึ่งกล่าวถึงเหตุการที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน  ส่วน Future continuous กล่าวถึงเหตุการทีกำลังเกิดในอนาคต  ซึ่งเหมือนกับว่าเราทำนายล่วงหน้าว่าในอนาคต จะมีเหตุการณ์หนึ่งๆ กำลังเกิดขึ้นอยู่
หลักการเปลี่ยนประโยคเป็นบอกเล่าเป็นปฏิเสธหรือคำถาม ก็คล้ายกับ Future Simple ทุกประการ
ประโยคปฏิเสธ
won’t be watching TV tomorow morning.
ฉันจะไม่กำลังดูทีวี พรุ่งนี้เช้า (ฟังดูพิลึกแฮะ)
ประโยคคำถาม
Will you be watching TV tomorow morning.
คุณจะกำลังดูทีวีใช่ไหม พรุ่งนี้เช้า
Yes, I will. / No, I won’t. ใช่ / ไม่ใช่
What will you be doing when your mom gets home?
คุณจะกำลังทำอะไรอยู่ ตอนที่แม่ของคุณมาถึง
I‘ll be watching TV.
ฉันจะกำลังดูทีวี
ปล. ชาตินี้เราจะได้พูดประโยคแบบนี้สักกี่ครั้งกัน ขนาดภาษาเรา เรายังไม่ค่อยได้พูดเลย มีใครไหมที่จะพูดว่า นี่เธอ พรุ่งนี้เช้า ฉันจะกำลังซักผ้าอยู่นะส่วนมากเราจะพูดแค่ว่า นี่เธอ พรุ่งนี้เช้าฉันจะซักผ้านะ

วันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

PRESENT PERFECT CONTINUOUS TENSE

Present perfect continuous tense จะใช้เพื่ออ้างถึงเวลาที่ไม่เจาะจงระหว่าง '่ก่อนหน้านี้' และ 'ตอนนี้' ผู้พูดคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เริ่มต้นทำไปแล้วแต่อาจจะยังไม่เสร็จในช่วงเวลานั้น และจะให้ความสำคัญกับขั้นตอนและผลที่ได้รับมากพอ ๆ กัน โดยในขณะที่พูดสิ่งนั้นอาจจะเกิดขึ้นในอดีตและยังคงดำเนินต่อไปในปัจจุบันหรือยังไม่เสร็จก็ได้
การกระทำที่เริ่มต้นในอดีตและยังคงต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
She has been waiting for you all day (= จนถึงตอนนี้เธอก็ยังคงรออยู่).
I've been working on this report since eight o'clock this morning (= จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เสร็จ).
They have been travelling since last October (= จนถึงตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่กลับบ้าน).
การกระทำที่พึ่งทำเสร็จไปแต่เรายังคงสนใจผลที่เกิดขึ้นอยู่
She has been cooking since last night (= ผลที่เกิดขึ้น คือ อาหารที่วางอยู่บนโต๊ะดูน่าทานมาก).
It's been raining (= ผลที่เกิดขึ้น คือ ถนนยังคงเปียกอยู่).
Someone's been eating my chips (= ผลที่เกิดขึ้น คือ ครึ่งหนึ่งหายไปแล้ว).
การสร้าง PRESENT PERFECT CONTINUOUS TENSE
Present perfect continuous tense จะประกอบไปด้วย 2 ส่วน 
ได้แก่ 'to be' ในรูปของ have/has been และ กริยา + ing
ประธาน
has/have been
กริยา + ing
She
has been
swimming
ประโยคบอกเล่า: She has been / She's been running.
ประโยคปฏิเสธ: She hasn't been running.
ประโยคคำถาม: Has she been running?
Iประโยคคำถามเชิงปฏิเสธ: Hasn't she been running?
ตัวอย่างการใช้ TO LIVE ใน PRESENT PERFECT CONTINUOUS TENSE
ประโยคบอกเล่า
ประโยคปฏิเสธ
ประโยคคำถาม
have been living
I haven't been living
Have I been living?
You have been living
You haven't been living
Have you been living?
He, she, it has been living
He hasn't been living
Has she been living?
We have been living
We haven't been living
Have we been living?
You have been living
You haven't been living
Have you been living?
They have been living
They haven't been living
Have they been living?

วันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

PRESENT PERFECT TENSE

โครงสร้าง
S + have, has + กริยาช่องที่ 3

PRESENT PERFECT TENSE ถูกใช้เพื่ออธิบาย  
  • สิ่งหรือเหตุการณ์ที่เริ่มต้นในอดีตและยังคงเกิดขึ้นมาจนถึงปัจจุบัน เช่น  have lived in Bristol since 1984 (= และตอนนี้ฉันก็ยังคงอยู่ที่นั่น)
  • สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาหนึ่งและยังไม่เสร็จสิ้น เช่น She has been to the cinema twice this week (= ยังไม่หมดสัปดาห์)
  • สิ่งที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ ในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งที่ไม่ได้ระบุไว้อย่างเจาะจงระหว่างอดีตและปัจจุบัน เช่น We have visited Portugal several times.
  • สิ่งที่พึ่งทำเสร็จไปเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา มักจะใช้คำว่า  'just' เช่น have just finished my work.
  • การกระทำบางอย่างที่เวลาไม่ใช่ตัวบ่งชี้ที่สำคัญหรือไม่ได้ระบุไว้อย่างชัดเจน เช่น  He has read 'War and Peace'. (= ผลจากการอ่านหนังสือของเขาเป็นสิ่งที่สำคัญ)  
สิ่งที่เริ่มต้นทำในอดีตและยังคงทำต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
  • They haven't lived here for years.
  • She has worked in the bank for five years.
  • We have had the same car for ten years.
  • Have you played the piano since you were a child?
เมื่อช่วงระยะเวลาที่อ้างถึงยังไม่เสร็จสิ้น
  • I have worked hard this week.
  • It has rained a lot this year.
  • We haven't seen her today.
สิ่งที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ ในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งที่ไม่ได้ระบุไว้อย่างเจาะจงระหว่างอดีตและปัจจุบัน
  • They have seen that film six times
  • It has happened several times already.
  • She has visited them frequently.
  • We have eaten at that restaurant many times.
สิ่งที่พึ่งทำเสร็จไปเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา (+JUST)
  • Have you just finished work?
  • have just eaten.
  • We have just seen her.
  • Has he just left?
การกระทำบางอย่างที่เวลาไม่ใช่ตัวบ่งชี้ที่สำคัญหรือไม่ได้ระบุไว้อย่างชัดเจน
  • Someone has eaten my soup!
  • Have you seen 'Gone with the Wind'?
  • She's studied Japanese, Russian, and English.

การสร้าง PRESENT PERFECT TENSE

คำกริยาใน present perfect tense จะประกอบไปด้วย 2 ส่วน ได้แก่ รูปที่ถูกต้องของกริยาช่วย to have (present tense) + กริยาช่อง 3 (past participle) โครงสร้างของ past participle ได้แก่ คำกริยา+ed เช่น played, arrived และ looked เป็นต้น สำหรับคำกริยาที่มีรูปพิเศษ (irregular verbs) ให้ดูที่ ตารางคำกริยาที่มีรูปพิเศษ ในส่วนที่เรียกว่า 'คำกริยา'
ประโยคบอกเล่า
ประธาน
to have
กริยาช่อง 3
She
has
visited.
ประโยคปฏิเสธ
ประธาน
to have + not
กริยาช่อง 3
She
has not (hasn't)
visited.
ประโยคคำถาม
to have
ประธาน
กริยาช่อง 3
Has
she
visited?
ประโยคคำถามแบบปฏิเสธ
to have + not
ประธาน
กริยาช่อง 3
Hasn't
she
visited?

ตัวอย่างการใช้ TO WALK ใน PRESENT PERFECT TENSE

ประโยคบอกเล่า
ประโยคปฏิเสธ
ประโยคคำถาม
I have walked
I haven't walked
Have I walked?
You have walked
You haven't walked.
Have you walked?
He, she, it has walked
He, she, hasn't walked
Has he, she, it walked?
We have walked
We haven't walked
Have we walked?
You have walked
You haven't walked
Have you walked?
They have walked
They haven't walked
Have they walked?