วันอังคารที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2561

วิธีฝึกอ่านภาษาอังกฤษดังนี้
[1] อย่าอ่านเรื่องที่ยากเกินไป
       คำว่ายากเกินไป คือศัพท์ยากเกินไป, โครงสร้างประโยคหรือแกรมมาร์ยากเกินไป, และเนื้อเรื่องยากเกินไป  ทำให้อ่านไม่รู้เรื่องและอ่านอย่างอึดอัด  เพราะมันยากเกินกำลังของการเดาและการตีความ  เพราะฉะนั้นขอให้ฝึกอ่านเรื่องที่พอเดาออกและพอจะตีความได้   เมื่อฝึกอ่านอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ เราก็จะพัฒนาและรู้ศัพท์มากขึ้น,   รู้เรื่องมากขึ้น, เดาและตีความได้เก่งขึ้น,    ใจไม่ท้อและกายไม่ถอย  เพราะไม่ได้หักโหม
[2] อย่าอ่านเรื่องที่ยาวเกินไป
       ทำไมถึงแนะนำอย่างนี้?  ที่แนะนำอย่างนี้ก็เพราะว่า เมื่อฝึกอ่านเราต้องการกำลังใจกำลังใจมากจากไหน มันมาจาก 2 ทาง คือ (1)อ่านรู้เรื่อง (2)อ่านจบเรื่อง  ถ้าเราเลือกอ่านเรื่องที่ยาวมาก  ยาวชนิดอ่านเท่าไรก็ไม่จบสักที  มันก็ไม่มีกำลังใจที่จะฝึกอ่าน  แต่ถ้าเราอ่านรู้เรื่องเพราะมันไม่ยากเกินไป  และอ่านจบเรื่องเพราะมันไม่ยาวเกินไป  เราก็จะมีกำลังใจว่าเราฝึกสำเร็จ  เมื่ออ่านจบเรื่องที่ 1 ก็มีกำลังใจฮึดอ่านเรื่องที่ 2 ได้ต่อ
[3] อย่าหยุดอ่าน
       อย่าหยุดอ่านแปลว่า ต้องอ่านทุกวัน !   ทำไมต้องอ่านทุกวัน  ก็เพราะว่าถ้าอ่าน ๆ หยุด ๆ ความชำนาญก็จะไม่ต่อเนื่อง เหมือนเปิดแก๊สต้มน้ำหม้อใหญ่  แต่ชอบปิดแก๊สก่อนน้ำเดือด,  เปิด ๆ ปิด ๆ ทั้งปี  น้ำหม้อนั้นคงเดือดไม่ได้,  ในการฝึกอ่านภาษาอังกฤษ  ความชำนาญของวันที่ 2 มันต่อยอดจากวันที่ 1,  และความชำนาญของวันที่ 3 มันก็ต่อยอดจากวันที่ 2,  มากขึ้นอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ  ถ้าอ่าน ๆ หยุด ๆ ก็เหมือนปิดแก๊สก่อนน้ำเดือด  ความชำนาญก็เหมือนความร้อนที่สะสมย่อมหายไปหมด หรือเหมือนกองไฟที่ไม่เติมเชื้อ เมื่อมอดก็ต้องก่อใหม่  ไม่รู้จักจบจักสิ้น  เสียแรงที่ก่อไฟ, เสียเวลาที่เริ่มอ่าน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น